สวัสดีค่ะทุกคน❤ ปาท่องโก๋ชิ้นพอดีคำ กรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับน้ำเต้าหู้รสชาติอร่อย น่าจะเป็นหนึ่งในเมนูอาหารเช้ายอดฮิตของคนที่ไม่ค่อยมีเวลาที่จะเตรียมทำอาหารสักเท่าไร เป็นอาหารทานง่าย อยู่ท้อง และรสชาติอร่อย จึงทำให้เมนูปาท่องโก๋เข้าไปนั่งอยู่ในใจใครหลายต่อหลายคนอยู่เสมอ แต่…ปาท่องโก๋ไม่ได้มาพร้อมกับความอร่อยอย่างเดียว แต่มันยังแฝงภัยเงียบที่แอบซ่อนไว้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว การรับประทานอาหารจำพวกนี้ในปริมาณมาก จึงเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆมากมาย โดยที่คุณเองก็อาจจะยังคาดไม่ถึงด้วยซ้ำ ความอันตรายในปาท่องโก๋ไม่ได้อยู่ที่ส่วนผสมหรือแป้งที่นำมาเป็นวัตถุดิบหลักแต่อย่างใด เพราะถึงแม้สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณอ้วนขึ้น แต่มันก็สามารถถูกกำจัดออกไปได้ด้วยการออกกำลังกาย แต่ภัยอันตรายร้ายแรงที่ทำให้ปาท่องโก๋แสนอร่อย ตกเป็นผู้ต้องหาในการทำลายสุขภาพนั้น อยู่ที่ ‘น้ำมัน’ ที่ใช้ในการทอดต่างหากละ เมื่อพิจารณาข้อมูลงานวิจัยที่ทำการสำรวจพฤติกรรมการใช้น้ำมันทอดซ้ำของพ่อค้าแม่ค้า พบว่า มีการใช้น้ำมันทอดซ้ำโดยที่ไม่มีการเติมน้ำมันใหม่ถึงร้อยละ 65 และส่วนใหญ่มีการทอดซ้ำมากกว่า 30 ครั้ง การจะเลือกซื้อแต่ปาท่องโก๋ที่ไม่ทอดน้ำมันซ้ำหรือไม่มีการหมุนเวียนน้ำมันกลับมาใช้ใหม่ น่าจะเป็นเรื่องยากมากกว่าการงมเข็มในมหาสมุทร เพราะคงไม่มีใครคิดที่จะตรวจสอบน้ำมันก่อนจะเลือกรับประทานอาหารกันหรอก โดยส่วนใหญ่การจะเลือกว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อน่าจะมีปัจจัยสำคัญมาจากหน้าตาและความหอมหวนชวนทานของอาหารนั้นๆเสียมากกว่า    เมื่อเราตรวจสอบถึงแนวโน้มสถิติของประชากรชาวไทย ก็จะพบว่า โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมองตีบ โรคหัวใจวาย โรคอัมพฤกษ์ หรือโรคมะเร็ง มีแนวโน้มของผู้ป่วยที่พุ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ หนึ่งในสาเหตุสำคัญก็เกิดมาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำนี่เอง    เหตุใดการรับประทานน้ำมันทอดซ้ำจึงอันตรายมากถึงเพียงนี้ คำตอบอยู่ที่โครงสร้างของน้ำมันที่ถูกดัดแปลงรูปร่างหลังจากผ่านการให้ความร้อนสูงเป็นเวลายาวนาน โครงสร้างของน้ำมันจะถูกบิดไปเป็นสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น ‘สารโพลาร์’ สารประกอบที่เป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงและหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือ ‘สารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (PAH)’ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง โดยหากเป็นสาร PAH ไม่ได้มีอันตรายแค่เพียงการรับประทานเท่านั้น […]

Read more

สวัสดีค่าาาทุกคน วันนี้มาเอาใจคนรักสุขภาพกันดีกว่า รู้หรือไม่คะว่าหลังออกกำลังกายเสร็จแล้ว การกินถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะการกินอาหารบางอย่างตามหลังกลับทำร้ายร่างกายที่เพิ่งออกกำลังกายมา ดังนั้น เราจึงขอนำเสนอเมนูอาหารต้องห้ามหลังออกกำลังกายมาฝากกัน ดังต่อไปนี้ ไปดูกันเลยค่ะ 1.เครื่องดื่มบำรุงกำลังหรือเอเนอร์จี้บาร์ เป็นอาหารที่ให้พลังงานมากก็จริง แต่ไม่เหมาะจะกินหลังออกกำลังกาย อาจลองกินโยเกิร์ตจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้ดีกว่า 2.ผักและผลไม้สด แปลกใจใช่มั้ยที่เห็นผักสดเข้ามาอยู่กลุ่มนี้ นั่นเป็นเพราะวิตามินที่มีมากมายในผักสดนั้นไม่ได้ช่วยเรียกพลังงานให้กลับมาหลังจากการออกกำลังกาย แต่กลับเป็นโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตต่างหากที่ร่างกายต้องการ 3. ชีส เป็นอาหารที่มีไขมันสูงมาก โดยเฉพาะเชดด้าร์ชีส จึงเป็นตัวเลือกอาหารที่ไม่เหมาะหลังเพิ่งออกกำลังกาย เพราะอาหารที่ร่างกายต้องการคือโปรตีน 4.น้ำอัดลม น้ำปั่น และน้ำผลไม้ เป็นสิ่งที่ควรเลี่ยงเสมอ และโดยเฉพาะหลังการออกกำลังกายเพราะมีน้ำตาลสูง ดังนั้น หากกระหายน้ำหลังออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำเปล่าเป็นดีที่สุด 5.ลูกอม หรือช็อคโกแลต ด้วยปริมาณน้ำตาลที่สูงเกินไป จึงไม่เหมาะจะรับประทานหลังออกกำลังกายทั้งคู่ แต่หากเป็นดาร์กชอกโกแลต หรือนมชอกโกแลตล่ะก็ ขอสนับสนุน เพราะช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ 6.ขนมปัง โดนัท แพนเค้ก และพิซซ่า สำหรับขนมปังนั้นหากต้องรับประทาน แนะนำให้เลือกที่เป็นโฮลเกรนจะดีกว่าขนมปังขาว ยิ่งโดนัทด้วยแล้วมีไขมันเกินมาอีก จึงนับเป็นอาหารควรงด สำหรับส่วนพิซซ่าเป็นอาหารที่ใช้เกลือมาก จึงควรหลีกเลี่ยงหลังการเสียเหงื่อไปมาก แต่หากพิซซ่านั้นคุณทำเอง ประกอบด้วยแป้งโฮลเกรน และหน้าพิซซ่าที่มีคุณภาพ ก็รับประทานได้ เป็นไงบ้างคะ นอกจากเราจะออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงแล้วการกินอาหารก็ถือเป็นการดูแลร่างกายอีกอย่างหนึ่งเพราะฉะนั้นเลือกกินอาหารที่ถูกต้องควบคู่กับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก […]

Read more

??สวัสดีค่าาาทุกคน?? พบกันอีกแล้วนะคะพร้อมกับสาระและสิ่งที่น่าสนใจที่แอดนำมาฝากวันนี้ ก็คือ ” น้ำผึ้ง ” น้ำผึ้งเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารที่ไม่เพียงมีรสชาติหอมหวานและอร่อยถูกปาก แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย วันนี้เราจึงได้นำข้อมูลเกี่ยวกับน้ำผึ้งและคำแนะนำการใช้อย่างถูกวิธีมาฝากกัน น้ำผึ้งคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร??? น้ำผึ้ง เป็นผลิตผลของน้ำหวานจากดอกไม้และแหล่งน้ำหวานอื่นๆ จากธรรมชาติที่ผึ้งงานนำมาเก็บสะสมไว้ในรังผึ้ง จากนั้นเหล่าผึ้งจะกินน้ำหวานที่ได้มาเข้าไป และน้ำหวานที่ผ่านการย่อยและผ่านเอนไซม์ในท้องผึ้งก็จะกลายมาเป็นน้ำผึ้งอยู่ในรังผึ้งอย่างที่เรารับประทานกันในที่สุด น้ำผึ้งที่ได้มาจากแต่ละแห่งนั้นจะมีรสชาติ ความหอมหวาน และสีที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบหรือชนิดของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งได้ไป รวมถึงแหล่งของพืชและพื้นดินในบริเวณที่ผึ้งอาศัยอยู่ เพราะฉะนั้นน้ำผึ้งที่ได้จากรังผึ้งในป่าใหญ่ก็จะประกอบไปด้วยน้ำหวานจากดอกไม้นานาพันธุ์ ส่วนน้ำผึ้งจากผึ้งเลี้ยงอาจมีน้ำหวานจากดอกไม้ชนิดเดียวหรือเพียงไม่กี่พันธ์ุเท่านั้น 1.รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลและลดการอักเสบ น้ำผึ้งถือว่าเป็นยารักษาแผลชั้นเลิศ โดยสามารถใช้แกไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้ผลชะงัดนัก โดยให้ใช้น้ำผึ้งทาบริเวณที่ถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวก ยิ่งทาบ่อยยิ่งดี หรือถ้าเกิดถูกมีดบาดหรือมีบาดแผล หลังจากล้างทำความสะอาดแผลให้สะอาดแล้ว ให้น้ำผึ้งทาหรือจะใช้น้ำผึ้งผสมกับผงขมิ้นชัน คลุกเคล้าให้เข้ากันดี แล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นแผล จะช่วยลดการอักเสบและช่วยให้แผลหายเร็ว เพราะทั้งน้ำผึ้งและขมิ้นชันนั้น มีสรรพคุณรักษาบาดแผล สมานเนื้อเยื่อและบำรุงผิวอีกด้วย 2.แก้อาการท้องผูกและแก้ท้องเสีย น้ำผึ้งเป็นทั้งยาระบายและแก้ท้องเสีย กล่าวคือถ้าเป็นน้ำผึ้งเก่าคือน้ำผึ้งที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไปจะช่วยแก้ท้องเสีย แต่ถ้าเป็นน้ำผึ้งใหม่ประเภทเพิ่งเก็บจากรังไม่นานจะมีสรรพคุณเป็นยาระบาย โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ ก่อน 6 เดือน ชาจะเป็นยาระบายในเด็กอ่อนที่ปลอดภัยยิ่ง การใช้น้ำผึ้งแท้สักประมาณ 1 ช้อนชา ผสมน้ำต้มสุกสัก 3 […]

Read more

สวัสดีค่าาาาา????? วันนี้มาดู ประโยชน์ของอาหารที่ช่วยชะลอความแก่กันบ้างดีกว่าถ้าพูดถึงความแก่ก็คงไม่มีใครอยากจะแก่อยากจะดูอ่อนเยาว์อยู่ตลอดเวลาถูกไหมคะเพราะฉะนั้นห้ามฆ่าทะเลมาดูกันซิว่าทานอะไรถึงจะดูอ่อนวัย 1.มะเขือเทศ? ประโยชน์ของมะเขือเทศนั้นมีมากมาย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังมีสารสำคัญอย่างไลโคปีน (Lycopene) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายจากการทำลายของสารอนุมูลอิสระ ช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย ตลอดจนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย ทำให้ผิวแลดูขาวอมชมพูดูมีเลือดฝาด อย่างไรก็ตามการรับประทานมะเขือเทศ เพื่อให้ได้รับสารไลโคปีนนั้น ควรรับประทานมะเขือเทศที่ผ่านความร้อน เพราะความร้อนจะทำให้การยึดจับของไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศอ่อนตัวลง ทำให้ร่างกายนำไลโคปีนไปใช้ได้ดีกว่าการรับประทานมะเขือเทศสดๆ 2.แอปเปิ้ล? ผลไม้ยอดนิยมของโลกอีกชนิดหนึ่ง มีสารสำคัญคือเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ คือ เพกทิน มีกรด 2 ชนิด คือ กรดมาลิคและกรดทาร์ทาริก ช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงสรรพคุณบำรุงหัวใจ ลดคลอเลสเตอรอล ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ และฆ่าเชื้อไวรัสอีกด้วย การกินแอปเปิ้ลช่วยให้ปอดแข็งแรง ไม่ว่าจะกินแอปเปิ้ลเขียวหรือแดงก็ตาม เพราะในผลแอปเปิ้ลมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อ “เคอร์ซีทิน” สารตัวนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดอย่างได้ผล วิธีการกินแอปเปิ้ลให้ได้สารเคอร์ซีทีนมากที่สุดก็คือต้องกินผลสดทั้งเปลือก ซึ่งจะให้ได้รับสาร […]

Read more

สมัยนี้กระแสคนรักสุขภาพมาแรงมากเลยทีเดียว วันนี้แอดนำ 7 เมนูอาหารคลีนสำหรับคนรักสุขภาพมาฝาก สามารถทำง่ายๆด้วยตัวคุณเอง แจกสูตรครบพร้อมทำ รวบรวมมาจากอินสตาแกรม eattttt.me แต่ละเมนูก็รวมแล้วแต่น่ากินด้วยกันทั้งนั้นมาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีเมนูไหนกันบ้าง 1.บะหมี่ผักต้มยำทะเล ส่วนประกอบ – บะหมี่ผัก 1 ก้อน – กุ้งนึ่ง – ดอลลี่นึ่ง – แตงกวาญี่ปุ่นหั่นเป็นเส้น – แครอทหั่นเป็นเส้น – เห็ดเข็มทอง – กระเทียมเจียว (ใช้น้ำมันรำข้าวเจียวนะคะ)ส่วนประกอบชามนี้ – บะหมี่ผัก 1 ก้อน – กุ้งนึ่ง – ดอลลี่นึ่ง – แตงกวาญี่ปุ่นหั่นเป็นเส้น – แครอทหั่นเป็นเส้น – เห็ดเข็มทอง – กระเทียมเจียว (ใช้น้ำมันรำข้าวเจียวนะคะ) – ผงปรุงอาหารคลีน สูตรต้นตำรับ (@nize_seasonings ) – เครื่องต้มยำ – น้ำพริกเผา (ใส่ไปนิดเดียวคะพอมีสีแซ่บๆน้า […]

Read more

ใครกำลังมองหาคาเฟ่นั่งชิล ถ่ายรูปสวยๆเอาไว้อัพลงโซเชียลไม่ควรพลาด 5ร้านที่แอดแนะนำ เพราะนอกบรรยากาศดีก็ยังมีเมนูอาหารแสนอร่อยที่พร้อมเสิร์ฟแบบไม่อั้นแล้ว เค้ายังมุมถ่ายรูปน่ารักๆอีกเพียบเลยยยยย~~~ 1. Roast Coffee & Eatery หอมกรุ่นกลิ่นอายของอเมริกันคาเฟ่ที่ทั้งดูเรียบง่าย สบายๆ แต่ดูสวยงามอย่างลงตัวในทุกมุมมอง และสัมผัสรสชาติอันกลมกล่อม หอมหวานเข้มข้น ของกาแฟคุณภาพเยี่ยมที่คัดสรรเมล็ดกาแฟมาจากทั่วทุกมุมโลก และพิถีพิถันทุกขั้นตอนในการปรุงแต่ง เพื่อให้กาแฟทุกแก้ว รสชาติออกมาลงตัวที่สุด ที่อยู่ : 251/1 ซอยทองหล่อ 13 อาคาร โครงการ Seen Space ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์ Roast Coffee & Eatery : 021852865 , 021852866 วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน จันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 10.00 – 23.00 น. วันศุกร์ เวลา […]

Read more

“ทับทิม” เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ โดยประโยชน์ของทับทิมและสรรพคุณของทับทิมนั้นมีมากมาย ด้วยทับทิมนั้นเป็นผลไม้ที่มีรสหวานออกเปรี้ยว น้ำทับทิมจึงมีวิตามินซีสูงและยังประกอบด้วยเกลือแร่ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย มาดูกันดีกว่าว่าประโยชน์แล้วสรรพคุณมีอะไรกันบ้าง ทับทิมยังเป็นผลไม้แห่งความงาม ช่วยบันดาลความสวยความหล่อให้แก่สาวๆ หนุ่มๆ ทั้งหลาย จะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เพราะทับทิมมีวิตามินซีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง แถมมีวิตามินเอและวิตามินอีที่มีคุณสมบัติช่วยลดปัญหาของริ้วรอยที่อาจเกิดขึ้นก่อนวัย ประโยชน์และสรรพคุณของ “ทับทิม” 1. ในทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก เนื้อทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก โดยสารต้านอนุมูลอิสระในทับทิมจะเป็นสารกลุ่มโพลีฟีนอลและแอนโธไซยานิน และจากการวิจัยก็ค้นพบว่า น้ำทับทิมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเป็น 3 เท่าของไวน์แดงและชาเขียว และสูงกว่าน้ำบลูเบอร์รี น้ำแครนเบอร์รี น้ำองุ่นสีม่วง และน้ำผลไม้ชนิดอื่น ๆ เมื่อเทียบในปริมาณที่เท่ากัน ที่สำคัญไปกว่านั้น ในเปลือกและน้ำของทับทิมจะมีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดพิเศษที่ชื่อว่า สารพูนิคาลาจิน (Punicalagin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกันโรคที่มีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระได้หลายโรค 2. ช่วยกระตุ้นความจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ มีงานวิจัยที่ทดลองให้สารสกัดผลทับทิมแก่ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดในปริมาณ 2 กรัม แล้วพบว่า ผู้ป่วยมีอัตราสูญเสียความทรงจำภายหลังการผ่าตัดลดน้อยลงหรือแทบจะไม่สูญเสียความทรงจำเลย ทำให้นักวิจัยเชื่อกันว่า สารสกัดที่ได้จากผลทับทิมมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ในส่วนของความทรงจำได้จริง ๆ 3.ป้องกันโรคมะเร็ง ทับทิมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด […]

Read more

“มะเขือเทศ” ไม่เพียงแต่จะมีรสชาติอร่อยเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อการบำรุงด้านความสวยความงามด้วยเช่นกัน ว่ากันว่าไลโคปีน (Lycopene) สารสำคัญในมะเขือเทศที่ทำให้มะเขือเทศเป็นสีแดง มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ (ป้องกันต้นเหตุการเสื่อมสภาพของร่างกาย)ได้มากกว่าวิตามิน E กว่า 100 เท่า สรรพคุณที่หลายคนเอ่ยอ้างนี้จะเป็นความจริงหรือเปล่า ก็เลยขอนำข้อมูลดีๆเกี่ยวกับมะเขือเทศมาฝากกัน สุดยอดคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเรื่อง aging care ไลโคปีนที่มีอยู่ในมะเขือเทศมีคุณสมบัติช่วยเรื่อง anti aging มากกว่าวิตามิน E ที่ว่ากันว่ามีคุณสมบัติช่วยทำให้ดูอ่อนวัยอีกกว่า 100 เท่า นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มคอลลาเจนซึ่งเป็นสารสำคัญในการช่วยรักษาความนุ่มและความชุ่มชื้นของผิว และช่วยป้องกันผิวจากสัญญาณการเสื่อมสภาพตามวัยเช่น ริ้วรอย, จุดด่างดำ และความหย่อนคล้อย ช่วยรักษารูปร่างและการไดเอ็ต นอกจากคุณสมบัติด้านการบำรุงผิวพรรณแล้ว ไลโคปีนยังมีคุณสมบัติช่วยเรื่องการเผาผลาญไขมันอีกด้วย ทั้งช่วยให้ผิวสวยและยังช่วยในเรื่องการไดเอ็ตได้เป็นอย่างดี แถมเส้นใยจำนวนมากในมะเขือเทศยังช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดีอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในมะเขือเทศยังมีโพรแทสเซียม (Potassuim) ที่มีคุณสมบัติช่วยเรื่องการขับปัสสาวะได้เป็นอย่างดี จึงช่วยขับเอาน้ำส่วนเกินและของเสียในร่างกายออกไป ดังนั้นใครที่มีปัญหาเรื่องอาการบวมน้ำเราแนะนำให้ลองมาทานมะเขือเทศกันดูนะคะ อุดมด้วยวิตามินสำคัญทั้ง 3 ชนิดได้แก่วิตามิน A・C・E ในมะเขือเทศยังอุดมไปด้วยวิตามิน 3 ชนิดที่ว่ากันว่าช่วยในเรื่องความงามอย่าง วิตามิน A, วิตามิน C, วิตามิน E ซึ่งในมะเขือเทศมีวิตามินทั้ง […]

Read more